เอ็นไอเอร่วมเปิดรายวิชานวัตกรรมใน 10 โรงเรียน ผลักดันความรู้ทางเลือก สร้างคนนิวเจนสู่นวัตกร พร้อมดัน “STEAM” บ่มทักษะการประกอบการ และทักษะการใช้ชีวิตโลกยุคใหม่

เอ็นไอเอร่วมเปิดรายวิชานวัตกรรมใน 10 โรงเรียน ผลักดันความรู้ทางเลือก สร้างคนนิวเจนสู่นวัตกร พร้อมดัน “STEAM” บ่มทักษะการประกอบการ และทักษะการใช้ชีวิตโลกยุคใหม่

  • ห้องเรียนยุคใหม่สร้างเด็กไทยเก่ง เจ๋ง “นวัตกรรม” กับหลักสูตร STEAM4INNOVATOR 5 รายวิชาสร้างชาติและพลเมืองนิวเจน

สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ทำความความร่วมมือกับ 10 โรงเรียนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดตัวโครงการ “สนามการเรียนรู้นวัตกรรมสำหรับเยาวชน” สร้างห้องเรียนนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพในรูปแบบต่าง ๆ สอดรับกับนโยบายชาติที่มุ่งสร้างเด็กไทยให้เป็นนวัตกร ผ่านการนำกระบวนการ STEAM4INNOVATOR กระบวนการที่เน้นให้เยาวชนได้ฝึกคิด ฝึกมองปัญหา และสามารถหาคำตอบในมุมใหม่ที่สร้างสรรค์ เข้าสู่โรงเรียนเพื่อเข้าถึงเยาวชนในวงกว้างทั่วทุกภูมิภาค และทุกระดับการศึกษา โดยมีคุณครูที่ปรึกษาคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อร่วมกันเป็นส่วนสำคัญในการสร้างรากฐานด้านนวัตกรรม และก้าวไปสู่การเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นกับเยาวชนไทยในอนาคตต่อไป ทั้งนี้ ในการนำหลักสูตร STEAM4INNOVATOR ไปใช้ในห้องเรียน จะมีรูปแบบการสอนที่แตกต่างกัน 3 แบบ ได้แก่ การสอนในวิชาหลัก ตาม 8 รายวิชาพื้นฐาน การสอนในรายวิชาเพิ่มเติม และการสอนในกิจกรรมเพิ่มพูนประสบการณ์ หรือกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ตั้งเป้าส่งต่อความรู้และทักษะสู่เยาวชนมากกว่า 2,000 คน เกิด 50 ไอเดียสร้างนวัตกรรม และ 5 ผลงานนวัตกรรมที่ต่อยอดได้จริง

ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กล่าวว่า NIA มีพันธกิจหลักในการมุ่งสร้างระบบนวัตกรรมที่เข้มแข็ง เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศแห่งนวัตกรรม ซึ่งหนึ่งในภารกิจสำคัญที่เอ็นไอเอมุ่งขับเคลื่อนมาอย่างต่อเนื่อง คือการพัฒนากลไกเพื่อสร้างคนที่มีศักยภาพด้านนวัตกรรม ดังนั้น คนรุ่นใหม่จึงเป็นขุมกำลังที่จะตอบโจทย์การสร้างประเทศนวัตกรรมในอนาคต ซึ่งในแต่ละปี NIA ได้ร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรทั้งโรงเรียนและมหาวิทยาลัยนำเครื่องมือสำคัญในการสร้างนวัตกร ได้แก่ กระบวนการ STEAM4INNOVATOR เข้าไปถ่ายทอดให้กับเยาวชนและคนรุ่นใหม่มากกว่า 10,000 รายในหลากหลายรูปแบบ เพื่อกระตุ้นการสร้างสรรค์นวัตกรรมบนฐาน STEAM อันได้แก่ วิทยาศาสตร์ (Science) เทคโนโลยี (Technology) วิศวกรรมศาสตร์ (Engineering) ศิลปศาสตร์ (Arts) และคณิตศาสตร์ (Mathematics) พร้อมด้วยแนวคิดทางด้านธุรกิจอย่างเป็นระบบ เพื่อให้เกิดทักษะในการคิดค้นนวัตกรรมและการประกอบการในอนาคต

“โครงการสนามการเรียนรู้นวัตกรรมสำหรับเยาวชนเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการเข้าถึงเยาวชนที่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากเราสามารถกระจายการดำเนินงานได้อย่างกว้างขวางในระบบโรงเรียนทั้ง 10 โรงเรียน และนอกจากการพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียนแล้ว เรายังให้ความสำคัญกับการฝึกสอนครูให้เป็น “ผู้สร้างนวัตกร” ที่สามารถสร้างนวัตกรรุ่นเยาว์ได้อย่างยั่งยืน ซึ่งโครงการสนามการเรียนรู้นวัตกรรมสำหรับเยาวชน มีเป้าหมายสำคัญ 5 ระดับ คือ 1. Ignition สร้างแรงบันดาลใจในการคิดและสร้างนวัตกรรมในกลุ่มเยาวชน 2. Capability สร้างความรู้ความเข้าใจและความสามารถด้านนวัตกรรมให้กับนักเรียน 3. Connectivity สร้างสังคมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และลงมือปฏิบัติที่สามารถวัดผลสำเร็จด้านการศึกษาและการต่อยอดผลงานสู่การเป็นผู้ประกอบการได้ 4. STEAM4INNOVATOR Center สร้างโรงเรียนเป็นศูนย์กลางการพัฒนาเยาวชนบนมาตรฐานและการทำงานร่วมอย่างยั่งยืนกับ NIA และ 5. New Platform สร้างระบบการเชื่อมโยงงานข้ามกระทรวงฯ เพื่อเสริมจุดแข็งด้านนวัตกรรม โดย NIA ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) และโรงเรียน ภายใต้กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งสามารถใช้เป็นแนวทางในการขยายผลสู่โรงเรียนอื่น ๆ ทั่วประเทศได้ต่อไปในอนาคต”

ด้าน ดร. กริชผกา บุญเฟื่อง รองผู้อำนวยการด้านระบบนวัตกรรม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่า NIA และหน่วยงานพันธมิตร มุ่งมั่นที่จะสร้างโรงเรียนต่าง ๆ ให้เป็น STEAM4INNOVATOR Center โดยวางมาตรฐานการทำงานบนแกนหลัก 4C อย่างเข้มข้น คือ 1) Content ใช้กระบวนการและเครื่องมือจาก STEAM4INNOVATOR ในการจัดการเรียนการสอน 2) Coaching ครูและอาจารย์สามารถเป็นโค้ชให้กับนักเรียนได้ 3) Connection เชื่อมโยงเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษารอบด้านเพื่อการต่อยอดผลงาน 4) Cluster เชื่อมโยงเยาวชนในโรงเรียนและระหว่างโรงเรียน เพื่อสร้างพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนความคิดและแรงบันดาลใจ อย่างไรก็ตาม ในปี 2566 นี้ NIA ตั้งเป้าให้เกิด 10 รูปแบบห้องเรียนนวัตกรรม กับ 50 ครูแกนนำเพื่อส่งต่อความรู้และทักษะสู่เยาวชนมากกว่า 2,000 คนในโรงเรียน ในการพัฒนาจนเกิด 50 ไอเดียสร้างนวัตกรรม และ 5 ผลงานนวัตกรรมที่ทำจริง บนโจทย์สุดท้าทายของสนามการเรียนรู้ฯ ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจ BCG โดยใช้เครื่องมือ STEAM4INNNOVATOR

“10 โรงเรียนที่จะมาร่วมสร้างห้องเรียนนวัตกรรม ได้แก่ โรงเรียนกำเนิดวิทย์ โครงการห้องเรียนวิทยาศาสตร์ในโรงเรียนป่าพะยอมพิทยาคม โดยการกำกับดูแลของมหาวิทยาลัยทักษิณ (โครงการ วมว. – ม.ทักษิณ) โรงเรียนชลประทานวิทยา โรงเรียนตะกั่วป่า “เสนานุกูล” โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ นนทบุรี โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ รัชดา โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย ปทุมธานี โรงเรียนศึกษานารี โรงเรียนแสงทองวิทยา และโรงเรียนอัสสัมชัญ ธนบุรี โดยมีรูปแบบแตกต่างกันออกไปตามความเหมาะสมของแต่ละโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็น ห้องเรียนวิชาหลัก วิชาเพิ่มเติม กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน หรือห้องเรียนวันเสาร์ และกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในโครงการฯ จะประกอบด้วย การฝึกอบรมครู การพัฒนาห้องเรียนนวัตกรรมที่เป็น “สนามการเรียนรู้” รูปแบบใหม่ที่เน้นการเรียนจากผู้รู้จริงในสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องทั้งด้านเทคโนโลยีและธุรกิจ รวมถึงมีการเข้าค่ายสำหรับตัวแทนจากโรงเรียนต่าง ๆ เพื่อสร้าง cluster แลกเปลี่ยนประสบการณ์และพัฒนาผลงานมานำเสนอเป็นตัวอย่างเป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนนักเรียนรุ่นต่อ ๆ ไปได้ชมกัน”

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามโครงการ “สนามการเรียนรู้นวัตกรรมสำหรับเยาวชน” ได้ที่ เพจ STEAM4INNOVATOR และเว็บไซต์: https://steam4i.nia.or.th

ที่มา: เจซีแอนด์โค คอมมิวนิเคชั่นส์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ