ฝนตก-อากาศร้อน ยุงแพร่ระบาดเร็วขึ้น สสวท. ชวนเรียนรู้ป้องกันโรคจากคลังความรู้ SciMath

ฝนตก-อากาศร้อน ยุงแพร่ระบาดเร็วขึ้น สสวท. ชวนเรียนรู้ป้องกันโรคจากคลังความรู้ SciMath

ในช่วงฤดูฝนที่ฝนตกชุกเช่นนี้ นอกจากเราต้องเตรียมรับมือกับน้ำท่วมและโรคต่าง ๆ ที่มากับความชื้นแล้ว ยังมีอีกหนึ่งภัยคุกคามที่แฝงตัวมากับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงนั่นคือ “ยุง” แมลงตัวเล็กที่พกพาเชื้อโรคร้ายแรงมากมาย

ครู นักเรียน และประชาชนทั่วไปสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการศึกษาลูกน้ำยุงกับการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศได้ที่คลังความรู้ SciMath ของ สสวท. ซึ่งมีเนื้อหาครอบคลุมทั้งความรู้ทางวิทยาศาสตร์ กิจกรรมการเรียนรู้ และแนวทางการป้องกันโรค

ภูมิอากาศเปลี่ยน ยุงเปลี่ยนตาม

การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศส่งผลต่อยุงในหลายมิติ ได้แก่

อุณหภูมิที่สูงขึ้น ทำให้กระบวนการเจริญเติบโตของลูกน้ำยุงเร็วขึ้น ลูกน้ำสามารถพัฒนาเป็นยุงโตเต็มวัยได้ในเวลาที่สั้นลง

ความชื้นที่แปรผันตามอุณหภูมิสูงสุด-ต่ำสุด สร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการอยู่รอดและการสืบพันธุ์ของยุง

ปริมาณฝนที่เพิ่มขึ้น สร้างแหล่งน้ำขังมากขึ้น ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ที่สมบูรณ์แบบของลูกน้ำยุง

ผลกระทบต่อพฤติกรรมของยุง

เมื่อสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง พฤติกรรมของยุงก็เปลี่ยนตามไปด้วย ดังนี้

  • ออกหากินบ่อยขึ้น ยุงต้องการดูดเลือดเพื่อพลังงานในการสืบพันธุ์
  • วางไข่เร็วขึ้น วงจรการสืบพันธุ์สั้นลง จำนวนรุ่นต่อปีเพิ่มขึ้น
  • บินได้ไกลขึ้น ขยายพื้นที่การระบาดของโรค
  • มีประชากรเพิ่มขึ้น เนื่องจากสภาพแวดล้อมเอื้ออำนวย

โรคร้ายที่มากับยุง

ยุงเป็นพาหะนำโรคร้ายแรงหลายชนิด โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ได้แก่

ไข้เลือดออก โรคที่พบบ่อยที่สุดในประเทศไทย เกิดจากไวรัสเดงกี มียุงลายเป็นพาหะ อาการรุนแรงอาจถึงแก่ชีวิต

มาลาเรีย เกิดจากเชื้อปรสิตพลาสโมเดียม มียุงก้นปล่องเป็นพาหะ พบในพื้นที่ป่าและชายแดน

ชิคุนกุนยา เกิดจากไวรัสชิคุนกุนยา มียุงลายเป็นพาหะ ทำให้ปวดข้อรุนแรง

โรคอื่น ๆ เช่น ไวรัสซิกา โรคเท้าช้าง และไข้สมองอักเสบเจอี

กิจกรรมการเรียนรู้สำหรับครูและนักเรียน

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เสนอแนวทางการจัดกิจกรรมในชั้นเรียนเพื่อให้นักเรียนเข้าใจความเชื่อมโยงระหว่างภูมิอากาศ สุขภาพ และสิ่งแวดล้อม

กิจกรรมที่ 1: การสำรวจแหล่งน้ำรอบบ้าน

นักเรียนสำรวจและบันทึกแหล่งน้ำขังต่าง ๆ รอบบ้านและโรงเรียน เช่น ภาชนะรองน้ำ ยางรถเก่า กระถางต้นไม้ เพื่อระบุแหล่งเพาะพันธุ์ของยุง

กิจกรรมที่ 2: การสังเกตวงจรชีวิตของลูกน้ำยุง

สังเกตและบันทึกขั้นตอนการเจริญเติบโตของลูกน้ำยุง ตั้งแต่ไข่ ลูกน้ำ ดักแด้ จนถึงยุงโตเต็มวัย พร้อมบันทึกระยะเวลาในแต่ละขั้นตอน

กิจกรรมที่ 3: การวัดและบันทึกข้อมูลสภาพอากาศ

บันทึกอุณหภูมิ ความชื้น และปริมาณฝน จากนั้นวิเคราะห์ความสัมพันธ์กับจำนวนยุงที่พบในพื้นที่

กิจกรรมที่ 4: การออกแบบแคมเปญป้องกันโรค

นักเรียนออกแบบสื่อประชาสัมพันธ์หรือกิจกรรมรณรงค์เพื่อสร้างความตระหนักในชุมชนเกี่ยวกับการป้องกันโรคที่มากับยุง

วิธีป้องกันโรคจากยุง

การป้องกันเป็นวิธีที่ดีที่สุด ทำได้ดังนี้

กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง

  • เทน้ำในภาชนะที่ไม่ใช้งานทิ้งทุกสัปดาห์
  • คว่ำภาชนะที่ไม่ใช้งาน
  • ปิดฝาภาชนะรองน้ำให้มิดชิด

ป้องกันการถูกยุงกัด

  • สวมเสื้อผ้าแขนยาวสีอ่อน
  • ใช้ยากันยุง
  • นอนในมุ้งหรือห้องที่มีมุ้งลวด
  • ใช้เครื่องไล่ยุง

สร้างความตระหนักรู้

  • ร่วมกิจกรรม Big Cleaning Day
  • รณรงค์ในชุมชน
  • ติดตามข่าวสารการระบาดของโรค
Tags :

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ