จุฬาฯ เปิดรับนิสิตใหม่ผ่าน TCAS 2569 ภายใต้นโยบาย “โปร่งใส ชัดเจน เปิดโอกาสทุกคน”

จุฬาฯ เปิดรับนิสิตใหม่ผ่าน TCAS 2569 ภายใต้นโยบาย “โปร่งใส ชัดเจน เปิดโอกาสทุกคน”

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยประกาศเปิดรับสมัครนิสิตใหม่ระดับปริญญาตรี ปีการศึกษา 2569 ผ่านระบบ TCAS (Thai University Center Admission System) ทั้งหลักสูตรปกติและหลักสูตรนานาชาติ โดยเริ่มรับสมัครรอบแฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) ตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2568

นโยบายการรับเข้าที่ชัดเจนและโปร่งใส

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ทันตแพทย์ ดร.ศุภชัย ชื่นจิตรวงษา ผู้ช่วยอธิการบดีจุฬาฯ เปิดเผยว่า นโยบายหลักของมหาวิทยาลัยในปีนี้คือ “ชัดเจน โปร่งใส ตรงไปตรงมา” สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของอธิการบดีที่วางไว้ว่า “จุฬาฯ เติบโตท่วมท้น มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง”

จุฬาฯ ได้เปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถเรียนรู้กับมหาวิทยาลัยได้ตั้งแต่ระดับประถมหรือมัธยมศึกษา เพื่อสร้างโอกาสการเรียนรู้ใหม่ๆ และนักเรียนสามารถนำประสบการณ์เหล่านี้มาเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมตัวสอบเข้า TCAS ในรอบ 1 และรอบ 2 ได้อีกด้วย

ตารางรับสมัคร

หลักสูตรปกติ (CU TCAS) มี 3 รอบ:

  • รอบที่ 1 แฟ้มสะสมผลงาน (Portfolio) รับสมัครบนระบบ CU TCAS ระหว่างวันที่ 3 – 17 พฤศจิกายน 2568
  • รอบที่ 2 โควตา (Quota) รับสมัครบนระบบ CU TCAS ระหว่างวันที่ 12 – 23 กุมภาพันธ์ 2569
  • รอบที่ 3 Admission รับสมัครบนระบบ myTCAS ระหว่างวันที่ 6 – 12 พฤษภาคม 2569

หลักสูตรนานาชาติ มี 2 รอบ:

  • รอบที่ 1 Early Admission รับสมัครระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน – 26 ธันวาคม 2568
  • รอบที่ 2 Admission รับสมัครระหว่างวันที่ 2 – 31 มีนาคม 2569

ทำไมจุฬาฯ ไม่เปิดรอบที่ 4?

จุฬาฯ ได้วิเคราะห์และพบว่าลักษณะของผู้สมัครในแต่ละรอบมีความแตกต่างกัน จึงให้อิสระแก่แต่ละคณะในการกำหนดสัดส่วนการรับเพื่อให้ตอบโจทย์ตามความต้องการเฉพาะของคณะนั้นๆ

ตัวอย่างเช่น คณะทันตแพทยศาสตร์พบว่านิสิตที่มีศักยภาพสูงมากจะอยู่ที่รอบ 1 และรอบ 2 ในขณะที่คณะเศรษฐศาสตร์วิเคราะห์แล้วว่านิสิตที่อยู่รอบ 3 มีศักยภาพสูงกว่า เนื่องจากวิชาการในการเรียนเศรษฐศาสตร์ต้องมีพื้นฐานที่แน่นกว่า

ดังนั้น ผู้สมัครไม่ควรเปรียบเทียบระหว่างรอบ เพราะแต่ละรอบมีวิธีการวัดและคุณลักษณะที่ต้องการแตกต่างกันอย่างชัดเจน

รอบ Portfolio: เน้นผลงานและตัวตนที่แท้จริง

รอบที่ 1 เป็นไปตามหลักการของที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ที่ต้องการนิสิตที่มีคุณลักษณะพิเศษหรือความสามารถพิเศษที่ไม่ใช่เชิงวิชาการเพียงอย่างเดียว

ผศ.ทพ.ดร.ศุภชัย ให้คำแนะนำว่า “จุฬาฯ ยังคงมองหาผู้สมัครที่มีคุณลักษณะเบื้องต้นด้านวิชาการเพื่อคัดกรองก่อน แต่หลักสำคัญคือการพิจารณาจาก Portfolio และการสัมภาษณ์”

นักเรียนควรทำการบ้านอ่านคุณสมบัติของแต่ละหลักสูตรให้ชัดเจน เพราะแต่ละคณะต้องการนิสิตที่แตกต่างกัน เช่น:

คณะวิศวกรรมศาสตร์ รอบ 1 ไม่ได้สนใจเชิงวิชาการมากนัก แต่ต้องการผู้ที่มีศักยภาพในการสร้างสรรค์หรือทำโปรเจกต์ของตนเอง

คณะทันตแพทยศาสตร์ รอบที่ 1 มีการแข่งขันต่ำ แต่ผู้ที่เข้าได้ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนบางอย่าง เช่น ถูกคาดหวังว่าต้องเริ่มทำวิจัยตั้งแต่ปี 2 และต้องไปนำเสนอผลงานวิชาการที่ต่างประเทศ

คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และศิลปกรรมศาสตร์ เน้นความสามารถและผลงานโดยตรง คณะกรรมการจะดูจากไอเดียและการออกแบบที่เคยทำมา

เคล็ดลับการทำ Portfolio ให้โดนใจ

ผศ.ทพ.ดร.ศุภชัย ย้ำว่า “การจัดทำ Portfolio ไม่ได้เน้นความสวยงาม แต่เน้นตัวตนของผู้สมัคร” กิจกรรมที่จะทำให้ได้คะแนนสูงในรอบนี้ไม่ใช่ที่แค่สมัครอย่างเดียว ผู้สมัครต้องเข้าร่วมกิจกรรมด้วย

การเข้าร่วมกิจกรรมไม่จำเป็นต้องถึงระดับนานาชาติ จะเป็นกิจกรรมระดับชาติก็ได้ แต่ต้องทำจริงและอยู่กับกิจกรรมนั้น คะแนนสูงสุดจะมาจากการสัมภาษณ์เพื่อยืนยันว่าสิ่งที่ทำในพอร์ตนั้นเป็นสิ่งที่ผู้สมัครได้ทำจริง

รอบ Quota และ Admission เหมาะกับใคร?

รอบ Quota จะเน้นพื้นที่ เช่น โครงการจุฬาชนบท ซึ่งตอบโจทย์นักเรียนที่อยู่ในพื้นที่ขาดแคลนหรือต้องการโอกาส นอกจากนี้ยังรวมถึงนักเรียนจากโรงเรียนสาธิตจุฬาฯ และ Quota ความสามารถพิเศษที่เน้นความสามารถทางกีฬาหรือดนตรีในระดับชาติ

รอบที่ 3 Admission วัดด้วยความสามารถทางวิชาการโดยตรง หากผู้สมัครเป็นผู้ที่มีความสามารถทางวิชาการอยู่แล้วและไม่ได้เน้นกิจกรรมมากนัก ควรสมัครที่รอบ Admission และอย่าฝืนตัวเองไปสมัครรอบที่ 1 หรือรอบที่ 2 ถ้าไม่ใช่ทางที่ถนัด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ