
คุรุสภาชวนศึกษากฏหมายมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย 2568 ด่วน!
ผศ.ดร.อมลวรรณ วีระธรรมโม เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า ตามที่มีประกาศในราชกิจจานุเบกษา เรื่องข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพครูปฐมวัย พ.ศ. 2568 และมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งการจัดทำข้อบังคับคุรุสภาฉบับนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบวิชาชีพครูในระดับปฐมวัย มีสมรรถนะทางวิชาชีพที่ทันสมัย สอดคล้องกับบริบทความเปลี่ยนแปลงของการจัดการศึกษาในยุคปัจจุบัน โดยกำหนดให้ครูปฐมวัยต้องมีคุณวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการศึกษาหรือเทียบเท่า หรือมีคุณวุฒิอื่นที่คุรุสภารับรอง และมีมาตรฐาน 3 ด้าน คือ 1.มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ2.มาตรฐานการปฏิบัติงาน และ 3.มาตรฐานการปฏิบัติตน
ผศ.ดร.อมลวรรณ กล่าวอีกว่า ในส่วนแรกด้านมาตรฐานความรู้และประสบการณ์วิชาชีพ กำหนดให้ครูปฐมวัยต้องมีความรอบรู้และเข้าใจ ธรรมชาติการเรียนรู้ของสมองเด็ก การเจริญเติบโต พัฒนาการด้านตัวตนและแบบองค์รวมตามช่วงวัย มีความรู้ด้านศาสตร์การสอน พัฒนาหลักสูตรสอดคล้องกับบริบทของครอบครัว ชุมชน และสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย มีการประเมินเพื่อวางแผน ส่งเสริม พัฒนาการและการเรียนรู้ มีการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม สร้างความสัมพันธ์ของระบบนิเวศรอบตัวที่เกี่ยวข้อง ทั้งครอบครัว โรงเรียน หน่วยงานสาธารณสุข ชุมชน สื่อ เทคโนโลยี ศิลปวัฒนธรรม และกฎหมาย รวมถึงสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้ปกครองและชุมชนในการพัฒนาเด็กปฐมวัย และจะต้องผ่านการปฏิบัติการสอนในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยตามหลักสูตรปริญญาทางการศึกษา เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1 ปี และผ่านเกณฑ์การประเมินปฏิบัติการสอนตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขที่คณะกรรมการคุรุสภากำหนด ได้แก่ การฝึกประสบการณ์วิชาชีพระหว่างเรียน และการปฏิบัติการสอนในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยที่มีคุณภาพ
ผศ.ดร.อมลวรรณ กล่าวต่อไปว่า สำหรับมาตรฐานการปฏิบัติงานนั้นกำหนดให้ผู้ประกอบวิชาชีพครูปฐมวัยต้องปฏิบัติหน้าที่ครู จัดประสบการณ์การเรียนรู้ และมีความสัมพันธ์กับผู้ปกครองและชุมชน ประกอบด้วย การพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องด้านความรู้ความสามารถเกี่ยวกับการพัฒนาเด็กปฐมวัย มีจิตวิญญาณและคุณลักษณะที่ดีของความเป็นครูปฐมวัย สร้างสัมพันธภาพที่ดี ปฏิบัติต่อเด็กปฐมวัยอย่างให้เกียรติ ใช้ความรู้ในการวางแผน พัฒนาและประเมินอย่างเหมาะสม ออกแบบ วางแผนอย่างสร้างสรรค์ บูรณาการที่สอดคล้องกับพัฒนาการตามวัย จัดสื่อ สภาพแวดล้อมทางกายภาพและทางสังคม ทั้งในและนอกห้องเรียนที่เหมาะสม รวมทั้งสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการแก้ปัญหาด้านพัฒนาการโดยใช้วิธีการสื่อสารเชิงบวกอย่างสม่ำเสมอ ขณะที่ส่วนสุดท้ายคือมาตรฐานการปฏิบัติตนที่ผู้ประกอบวิชาชีพครูปฐมวัยจะต้องมีมาตรฐานการปฏิบัติตนตามข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยจรรยาบรรณของวิชาชีพ
เลขาธิการคุรุสภา กล่าวเพิ่มเติมว่า กฎหมายฉบับนี้ได้รับการผลักดันจากคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพให้มีผลใช้บังคับ ซึ่งได้มีการกำหนดบทเฉพาะกาลที่สำคัญ เช่น ข้อบังคับนี้จะไม่กระทบสิทธิและหน้าที่ของผู้ได้รับและผู้ขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูที่ใช้มาตรฐานวิชาชีพตามข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ พ.ศ. 2556 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ส่วนผู้สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรปริญญาหรือเทียบเท่าที่คุรุสภารับรองตามมาตรฐานวิชาชีพ ตามข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพฯ สามารถใช้คุณวุฒิดังกล่าวในการขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูได้ตามที่กำหนดในข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ฯ นอกจากนี้ให้สถาบันที่ยังปรับปรุงหลักสูตรไม่แล้วเสร็จตามข้อบังคับนี้ยังคงใช้หลักสูตรตามข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ พ.ศ. 2556และที่แก้ไขเพิ่มเติม ไปพลางก่อน แต่ต้องไม่เกิน 3 ปี หลังจากวันที่ข้อบังคับนี้ใช้บังคับ(ภายในวันที่ 21 ส.ค. 2571) เป็นต้น สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาจึงขอเชิญชวนสถาบันการศึกษา ครูและผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนมาศึกษารายละเอียดต่าง ๆ ของกฎหมายฉบับนี้ และเพื่อให้สถาบันอุดมศึกษาที่ผลิตครูสามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง หากมีข้อสงสัยสามารถขอคำแนะนำได้ที่สำนักมาตรฐานวิชาชีพ กลุ่มมาตรฐานการประกอบวิชาชีพ โทร.0-2280 -0048 เพื่อร่วมกันพัฒนาให้ครูปฐมวัยมีมาตรฐานที่มีคุณภาพและเป็นที่ยอมรับของสังคมต่อไป